วันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

อุปกรณ์ป้องกันคอมเพรสเซอร์แอร์

การที่คอมเพรสเซอร์จะเสียหายนั้น มาได้จากหลายสาเหตุ
เช่น ฟ้าผ่า  คอมเกิดอาการ lock rotor  กรณีของฟ้าผ่านั้น
เราอาจป้องกันได้โดยติดตั้งสายดิน แต่ในที่นี้เราจะพูดถึงการ
ป้องกันไม่ให้คอมเกิดอาการ lock rotor โดยใช้อุปกรณ์ช่วย
ซึ่งก่อนที่คอมจะเกิดการ lock rotor นั้น โดยปกติแล้วที่ตัว
คอมเพรสเซอร์จะมี 2 ท่อ  คือ ท่อดูด ( suction)  และท่ออัด
(liquid)  โดยที่ท่ออัดจะมีแรงดันน้ำยาประมาณ 350 psig
ซึ่งอยู่ในสถานะแก็สก่อนที่จะเข้าแผงคอนเดนเซอร์ หรือแผง
คอยล์ร้อน ซึ่งเมื่อผ่านแผงคอยล์ร้อนแล้วแรงดันต้องอยู่ไม่เกิน
300 psig แต่ถ้าจะให้ดีไม่ควรเกิน 250 psig  ซึ่งตอนนี้น้ำยา
จะเปลี่ยนไปอยู่ในสถานะของเหลวแล้ว   และจะเคลื่อนตัวผ่าน
ตัวฉีดน้ำยา (capilary tube)  หรือตัวลดแรงดันน้ำยา  ผ่าน
แผงคอยล์เย็น (evaporator) นำความเย็นให้สู่ห้องของเรา
กลับเข้าสู่คอมเพรสเซอร์ทางท่อดูด  ซึ่งตอนนี้แรงดันน้ำยาจะ
อยู่ที่ 65 -78 psig แล้วแต่อุณหภูมิห้อง และขนาดรูของตัวฉีด
น้ำยา ซึ่งพอกลับเข้าสู่คอมเพรสเซอร์ทางท่อดูดแล้ว  ก็จะผ่าน
ถังพักน้ำยาหรือ accumurator ซึ่งจะเอาแต่น้ำยาซึ่งอยู่ใน
สถานะแก็ส ไปให้คอมเพรสเซอร์อัดมาเป็น hot gas ทางท่อ
อัดอีกที เป็นการครบวัฏจักรการทำงาน  ซึ่งการที่คอมจะเสีย
นั้น มาจากแรงดันที่ผ่านแผงคอยล์ร้อนแล้วสูงเกิน 350 เป็น
เวลานาน อาจจะ 6 เดือน หรือ 1ปี ซึ่งสาเหตุที่ทำให้แรงดันสูง
เกิน350 psig มาจาก  แผงคอยล์ร้อนสกปรก  ตัวฉีดน้ำยา
อาจจะฝืดเนื่องจากมีน้ำมันไปเกาะ  พัดลมคอยล์ร้อนรอบตก
เพราะฉะนั้นเราจึงมีอุปกรณ์ป้องกันตัวนี้ออกมา ซึ่งเรียกว่า
ไฮ เพรสเชอร์(high pressure) ซึ่งอุปกรณ์ตัวนี้หลักการทำ
งานคือ เมื่อแรงดันน้ำยาเราสูงเกิน 320 psig มันจะตัดการทำ
งานของคอมเพรสเซอร์ออก ซึ่งจะเป็นการเตือนเราล่วงหน้าว่า
เกิดการผิดปกติของระบบ  ซึ่งเราจะสามารถแก้ไขได้ทันก่อน
ที่คอมเพรสเซอร์จะเสียหาย  และอีกตัวนึงคือ โล เพรสเชอร์
(low pressure) หลักการทำงานของตัวนี้คือเมื่อน้ำยาทางด้าน
ดูดน้อยกว่า 35 psig ซึ่งปกติควรอยู่ที่ 65 -78  มันจะตัดการ
ทำงานของคอมเพรสเซอร์ออกเหมือนกัน  ซึ่งเราจะสามารถ
แก้ไขได้ทันก่อน ที่คอมเพรสเซอร์จะเสียหาย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น