สถานการณ์ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
ได้พบผู้ป่วยที่ต้องสงสัยเพิ่มเป็น 1900 คนในเม็กซิโก และพบว่าตาย 156 คน โดยมีการยืนยันว่ามีคนติดเชื้อนี้แล้วรวม 7 ประเทศ ใน 2 ทวีป ในอเมริกามีผู้ต้องสงสัย 68 คน องค์การอนามัยโลกได้ประกาศเลื่อนระดับความรุนแรง จากระดับ 4 เป็น 5 (ทั้งหมดมี 6 ระดับ) เมื่อวันที่ 28 เมษายน ที่ผ่านมา โดยระดับ 5 จะมีการติดเชื้อมากกว่า 2 ประเทศ และเชื้อมีการแพร่ในระดับชุมชน ประเทศสุดท้ายที่พบคืออิสราเอล เป็นประเทศแรกในทวีปเอเชีย
มาตรการในการป้องกัน
- ได้มีการสแกนอุณหภูมิร่างกายแก่ผู้เดินทางเข้าประเทศทุกราย โดยผู้ที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 37 องศาเซลเซียส จะได้รับการตรวจซ้ำและแนะนำให้ติดต่อแพทย์ หากมีอาการภายใน 14 วัน
- วัคซีนที่ใช้ป้องกัน คาดว่าจะผลิตขึ้นได้ใน 6 เดือนข้างหน้า
มาตรการในการรักษา
ทางองค์การเภสัชกรรม GPO ได้เพิ่มกำลังการผลิตยาต้านไวรัสขึ้น สำหรับการใช้กับคนจำนวน 400,000 คน คาดว่าน่าจะพร้อมในเดือนมิถุนายน
บทบาทของพลาสม่าคลัสเตอร์
จะ เห็นว่ามาตรการป้องกันไม่ได้ให้ความมั่นใจในการลดความเสี่ยงการติดต่อ หากมีการระบาดในกลุ่มชนจำนวนมาก เป็นเพียงสิ่งที่สามารถทำได้โดยไม่มีทางเลือก ระบบพลาสม่าคลัสเตอร์จึงเข้ามาลดความเสี่ยงโดยการพ่นทำลายเชื้อไวรัสในหลากหลายสายพันธ์ได้ โดยเฉพาะ H1N1 เอง ก็ได้มี พิสูจน์มาแล้วจากสถาบัน Kitasato , Shianghai University และ Seoul University ว่าพลาสม่าคลัสเตอร์สามารถทำลายเชื้อไวรัส H1N1 ได้ นอกเหนือจากการทดสอบแล้วว่า พลาสม่าคลัสเตอร์ สามารถฆ่าเชื้อไวรัสไข้หวัดนก H5N1 ได้ถึง 99.9% โดย ดร.จอห์น อ็อกฟอร์ด แห่งมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ อีกทั้งการพิสูจน์ว่าสามารถฆ่าเชื้อไวรัสไข้หวัดแดด ไข้หวัดใหญ่ จากสถาบันวิจัยนานาชาติอื่นๆ ระบบพลาสม่าคลัสเตอร์ มีติดตั้งใน เครื่องปรับอากาศ เครื่องฟอกอากาศ (รุ่นใหม่เป็นพลาสม่าคลัสเตอร์แบบเข้มข้น) เครื่องพ่นอนุภาคไฟฟ้า (แบบเข้มข้นสุดๆ)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น